จะวัยเรียนวัยทำงาน ถ้าหักโหมมากๆ อาการปวดเมื่อยปวดหลังมักจะตามมาเป็นปกติ นอกจากการต้องดูแลตัวเอง พักผ่อนให้มากๆ แล้ว การกินก็ยังต้องเลือกสรรอย่างดี บางอย่างห้ามกิน บางอย่างกินได้ ตามแต่สภาพร่างกายของแต่ละคน
แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะสงสัย ที่เขาพูดว่า “เวลาปวดเมื่อยร่างกาย อย่ากินข้าวเหนียว” มันเกี่ยวกันไหมนะ? การกินข้วเหนียวส่งผลต่ออาการปวดเมื่อยจริง ๆ หรือแต่เข้าใจผิดกันไปเอง วันนี้มาทำความเข้าใจไปด้วยกัน
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า การกินอาหารนั้นสามารถส่งผลต่ออาการป่วยได้จริงๆ หากมีคนใกล้ตัวที่มีโรคประจำตัวละก็ สามารถเห็นได้ว่าแต่ละคนแต่ละโรคจะมีข้อห้าม และคำแนะนำในการกินแตกต่างกันไป
แล้วอาการปวดเมื่อยธรรมดานี่มีข้อห้ามด้วยหรือ?? ข้าวเหนียวเกี่ยวด้วยจริงมั้ย?
ต้องขอบอกว่าเป็นเพียงข้อแนะนำเท่านั้น ไม่ถึงกับว่าห้ามกิน
เพราะข้าวเหนียวเป็นอาหารหนัก ย่อยยาก ใช้เวลาย่อยนาน เวลากินเข้าไป ร่างกายจะต้องใช้เวลาและพลังงานในการย่อยมากกว่ากินข้าวปกติ ซึ่งส่งผลให้ในร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ส่งผลต่ออาการปวดเมื่อย หรืออาการอักเสบที่กำลังเป็นอยู่ได้
นอกจากนี้ ข้าวเหนียวยังให้พลังงานมาก ทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดมีมากขึ้น อาจส่งผลให้เลือดเกิดความหนืดขึ้นมาได้ ทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไม่อาจนำพาสารอาหารไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีมากพอ ยาที่กินเข้าไป แทนที่จะทำให้หายเร็วขึ้น กลับกลายเป็นว่าไม่ได้ช่วยอะไร เพราะยาไปไม่ถึงจุดที่ร่างกายเจ็บปวดนั่นเอง
บ้างก็ยกว่า “ข้าวเหนียว” ถือเป็นอาหารแสลงไปเลย ใครที่มีอาการปวด หรืออาการอักเสบอยู๋ไม่ควรกิน เพราะจะส่งผลให้อาการนั้นหายช้ากว่าเดิม
นอกจากข้าวเหนียวแล้วยังมีอาหารอื่นๆ อีกมากที่เป็นข้อห้าม/ควรหลีกเลี่ยงขณะที่มีอาการปวดหรืออาการอักเสบ เช่น เนื้อแดง อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม/ขนมที่มีพลังงานสูง พวกของทอด หรืออาหารที่มีไขมันสูง เป็นต้น
เห็นแบบนี้แล้ว ใครที่มีอาการปวดหรือแผลอักเสบก็เลี่ยงๆ ข้าวเหนียวไปก่อนน้า
แต่สามารถกินข้าวอื่นๆ ได้ ! ทั้งข้าวหอมมะลิหรือข้าวอื่นๆ ที่นี่ >>คลิก<<