Blog

Home / ความรู้เรื่องข้าว / ข้าวสารอาหารแหง้ ที่ไม่ได้สื่อถึงแค่ “อาหาร”

ข้าวสารอาหารแหง้ ที่ไม่ได้สื่อถึงแค่ “อาหาร”

คำว่า “ข้าวสารอาหารแห้ง” เป็นวลีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสังคมไทย เรามักจะได้คนใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในรายการโทรทัศน์ ในบทความ หรือในการพูดคุยเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับวลีนี้ เช่น เรื่องการทำบุญ การบริจาค หรือกิจกรรมงานบุญทางพุทธศาสนา ที่มีการนำข้าวสาร และอาหารแห้งต่างๆ มาทำบุญกันในวันสำคัญ

 

ความหมายของ “ข้าวสารอาหารแห้ง”

 

“ข้าวสารอาหารแห้ง” หมายถึง เครื่องอุปโภคบริโภคที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน โดยไม่เน่าเสียหรือบูดง่าย และเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือ

 

ข้าวสาร

คือเมล็ดข้าวที่ผ่านการสีเอาเปลือกและรำออกแล้ว (เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว) ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนไทยและเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่แห้งสนิท จึงสามารถเก็บไว้ได้นานเพื่อใช้หุงเป็นข้าวสวยในภายหลัง

อาหารแห้ง

คืออาหารหรือวัตถุดิบอื่น ๆ ที่ผ่านกระบวนการลดความชื้น เพื่อให้เก็บได้นานขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องแช่เย็น และสามารถนำมาปรุงอาหารหรือรับประทานได้ในภายหลัง ตัวอย่างอาหารแห้งที่นิยม เช่น…

 

  • บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (มาม่า)
  • ปลากระป๋อง หรืออาหารกระป๋องอื่น ๆ
  • เครื่องปรุงรส (น้ำปลา, น้ำตาล, เกลือ)
  • นมผง, นมกล่อง UHT
  • พริกแห้ง, หอม, กระเทียม
  • กาแฟ, โอวัลติน, ชา

 

ดังนั้น ข้าวสารอาหารแห้ง คือ ชุดสิ่งของจำเป็นที่แห้งและเก็บได้นาน ที่ใช้สำหรับบริโภคในชีวิตประจำวัน

 

ที่มาของการใช้คำว่า “ข้าวสารอาหารแห้ง”

 

นอกจากจะหมายถึงอาหารที่ตรงตามตัวอักษรแล้ว ข้าวสารอาหารแห้งยังมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับวิถีปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา(การตักบาตร) และการช่วยเหลือสังคมอีกด้วย

 

ที่มาในบริบททางศาสนา (การตักบาตร)

 

  1. การปรับเปลี่ยนการถวาย

ตามพระวินัยดั้งเดิมของพระพุทธศาสนา พระภิกษุจะต้องบิณฑบาตเพื่อรับอาหารที่ปรุงสำเร็จแล้ว ที่สามารถฉันได้ทันทีในวันนั้น ๆ และไม่สามารถเก็บอาหารไว้ข้ามคืน หรือหุงต้มอาหารเองได้ การตักบาตรด้วยข้าวสารอาหารแห้งจึงเป็นอุบายที่พุทธศาสนิกชนรุ่นหลังคิดขึ้นมา เพื่อให้วัดและพระภิกษุมีวัตถุดิบสำหรับใช้ในการดำรงชีพได้ในระยะยาว หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่สำคัญกว่าการบริโภคในวันต่อวัน

 

  1. วัตถุประสงค์ของวัด

เนื่องจากพระภิกษุไม่สามารถทำอาหารเองได้ วัตถุดิบเหล่านี้จึงไม่ได้มีไว้สำหรับพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งโดยตรง แต่จะถูกรวบรวมไว้ที่วัด เพื่อใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เช่น

  • นำไปให้แม่ครัวหรือคนในวัด หุงต้มเลี้ยงพระ เณร หรือคนงานในวัด
  • นำไปจัดตั้งเป็นโรงทาน เพื่อแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ยากไร้
  • นำไปบริจาคต่อให้กับชุมชนที่ประสบภัยพิบัติ (น้ำท่วม, ภัยแล้ง) หรือสถานที่ที่ขาดแคลนอื่น ๆ
  • นำไปจำหน่ายเพื่อนำปัจจัยมาบำรุงวัด (ในบางกรณี)

 

ที่มาในบริบททางสังคม (การบริจาค)

 

ในบริบทของการช่วยเหลือสังคม คำว่า “ข้าวสารอาหารแห้ง” ก็กลายเป็นคำที่ใช้เรียกชุดสิ่งของบริจาคพื้นฐานที่ขาดไม่ได้เวลาเกิดภัยพิบัติหรือความเดือดร้อน เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้เก็บได้นานและมีความจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต จึงเป็นสิ่งแรก ๆ ที่หน่วยงานหรือผู้ใจบุญจะขอรับบริจาค เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยที่อาจไม่สามารถเข้าถึงอาหารสดหรือการปรุงอาหารได้ทันที

ดังนั้น “ข้าวสารอาหารแห้ง” จึงไม่ได้เป็นเพียงชื่อหมวดหมู่ของสินค้า แต่เป็นสัญลักษณ์ของการทำบุญ การให้ทาน และการแบ่งปันที่ช่วยให้ผู้อื่นสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในยามปกติหรือยามยากลำบากด้วย

สิ่งสำคัญที่เราเห็นได้ชัดคือ “ข้าวสาร” นั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนไทย เป็นทั้งอาหารหลักในการบริโภคเพื่อเสริมสร้างพลังงานและร่างกายของเรา และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการแบ่งปัน/ความเมตตา หรือความมั่งคั่งอีกด้วย