Blog
ข้าวต่างอายุ ต่างสูตรหุง: เคล็ดลับหุงข้าวมะลิให้หอมนุ่มอร่อยลงตัวทุกครั้ง

เคยเจอปัญหานี้ไหม? ซื้อข้าวจากร้านเดิม สายพันธุ์เดิม แต่บางครั้งหุงออกมาแล้วก็แฉะเกินไป หรือบางครั้งก็แข็งเกินไป ไม่เหมือนกันสักที นั่นอาจเป็นเพราะคุณยังไม่ได้ปรับ “สูตรหุงข้าว” ให้เข้ากับ “อายุของข้าว” ที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง!
อายุของข้าว เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ข้าวที่มาจากสายพันธุ์เดียวกัน หุงออกมาแล้วได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
ทำไมข้าวต่างอายุจึงต้องหุงต่างกัน?
ขอยกตัวอย่างเป็นข้าวหอมมะลิที่หลายคนคุ้นเคย หากนำข้าวหอมมะลิที่อายุต่างกันมาเปรียบเทียบ จะได้ว่า…
- ข้าวเก่า
จะมีความแห้งมากกว่า มียางข้าวเหลืออยู่น้อย หรืออาจไม่มียางข้าวเหลืออยู่เลย เนื่องจากมีการเก็บเกี่ยวมานาน เวลาหุงจะต้องใช้น้ำในการหุงมากกว่า เพื่อให้ข้าวดูดซับน้ำได้เพียงพอและมีความนุ่มกำลังดี ทั้งนี้ ข้าวจะหุงขึ้นหม้อ เป็นเม็ด ไม่จับเป็นก้อน - ข้าวใหม่
จะมีความชื้น/ความสดใหม่มากกว่า จึงมียางข้าวเหลืออยู่เยอะ เวลาหุงจึงใช้น้ำในการหุงน้อย ยิ่งเป็นข้าวใหม่เท่าไหร่ ยิ่งใช้น้ำน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวแฉะหรือเละเกินไป ทั้งนี้ ข้าวใหม่เมื่อนำมาหุงจะหอมมาก นุ่ม ไม่เป็นเม็ด ข้าวจะจับกันเป็นก้อน และไม่ขึ้นหม้อ
การปรับปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับอายุข้าวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราได้ข้าวหอมมะลิที่หอม นุ่ม และอร่อยลงตัวในแบบที่เราต้องการทุกครั้ง
สูตรหุงข้าวแบบง่ายๆ ที่ใช้ได้จริง
สำหรับผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิ เช่น ข้าวหอมมะลิเชียงราย ของข้าวธรรมนั้น ได้มีการระบุสูตรหุงข้าวที่แนะนำไว้ด้านหลังถุง เพื่อให้คุณสามารถหุงข้าวได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างสม่ำเสมอ
อัตราส่วนข้าวต่อการหุง: ข้าว 1 ส่วน ใส่น้ำ 1.1 – 1.3 ส่วน
ควรใช้ภาชนะเดียวกันในการตักข้าวและตวงน้ำ เพื่อให้ปริมาณที่ได้มีความแม่นยำและเท่ากันทุกครั้ง **และอย่านำภาชนะที่เปียกน้ำ หรือมีรอยชื้นใส่ลงในถุงข้าวสาร หรือถังเก็บข้าวสารเด็ดขาด ไม่เช่นนั้จะเกิดเชื้อราได้**
ขั้นตอนสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้าม
นอกจากอัตราส่วนน้ำที่ถูกต้องแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยให้ข้าวของคุณสมบูรณ์แบบหลังจากหม้อหุงข้าวตัดไฟแล้ว ห้ามเปิดฝาทันที! ควรทิ้งข้าวไว้ต่อในหม้ออีกประมาณ 10 – 15 นาที การพักข้าวในขั้นตอนสุดท้ายนี้จะช่วยให้ข้าวระอุได้ที่ เมล็ดข้าวจะฟูขึ้นและนุ่มขึ้น ทำให้ได้ข้าวหอมมะลิที่หอมนุ่มอร่อยกำลังดี
หากอยากได้ข้าวที่หอมนุ่ม ไม่แข็ง และไม่แฉะเกินไป อย่าลืมใส่ใจเรื่อง “อายุของข้าว” และปรับปริมาณน้ำตามคำแนะนำที่ระบุไว้บนฉลากสินค้า เพื่อให้สามารถหุงข้าวได้อร่อยลงตัวเหมือนมืออาชีพในทุกๆ วัน!