Blog
ข้าวเย็นเหลือ ไม่ต้องทิ้งขว้าง!
ในทุกครัวเรือน เชื่อว่าปัญหา “ข้าวเย็นเหลือ” คือเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และหลายคนอาจเลือกจบปัญหาด้วยการทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ความจริงแล้ว ข้าวสวยที่หุงไว้เมื่อวานนี้ คือวัตถุดิบชั้นเลิศที่สามารถนำมาปรุงเป็นเมนูใหม่ได้อย่างหลากหลาย อร่อยไม่แพ้ข้าวหุงใหม่ แถมยังช่วยลดขยะอาหาร (Food Waste) และประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
ทำไมต้องใช้ “ข้าวเย็น” ในการทำอาหาร?
นอกจากเหตุผลเรื่องความคุ้มค่าและการลดขยะอาหารแล้ว ในเชิงการทำอาหาร “ข้าวเย็น” หรือข้าวที่ผ่านการแช่เย็นข้ามคืนมาแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการปรุงอาหารบางประเภทเป็นพิเศษ นั่นคือ…เม็ดข้าวร่วนสวย การนำข้าวไปแช่เย็นจะช่วยให้เม็ดข้าวแห้งและร่วนกว่าข้าวที่หุงสุกใหม่ ๆ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำเมนูผัด ที่ต้องการให้ข้าวไม่แฉะและไม่จับตัวเป็นก้อน
ไอเดียเปลี่ยนข้าวเย็นให้เป็นเมนูสุดว้าว
ลืมภาพการทิ้งข้าวไปได้เลย เพราะนี่คือสารพัดเมนูง่าย ๆ ที่คุณสามารถรังสรรค์จากข้าวเย็นเหลือได้ทันที
เมนูยอดนิยมตลอดกาล “ข้าวผัด”
นี่คือเมนูอันดับหนึ่งที่ข้าวเย็นเกิดมาเพื่อสิ่งนี้! ด้วยความร่วนของเม็ดข้าว ทำให้สามารถผัดกับเครื่องปรุงและวัตถุดิบอื่น ๆ ได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็น ข้าวผัดกุ้ง , ข้าวผัดหมู , ข้าวผัดไข่ หรือแม้แต่ ข้าวผัดกิมจิ สไตล์เกาหลีก็อร่อยลงตัว โดยมีเคล็ดลับคือ การคลุกข้าวกับน้ำมันเล็กน้อยก่อนผัด จะช่วยให้เม็ดข้าวไม่เกาะกัน
เมนูซดน้ำคล่องคอ “ข้าวต้ม”
หากอยากได้เมนูเบาๆ ย่อยง่าย เพียงแค่เติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งไฟ ใส่ข้าวเย็นลงไป คนให้ข้าวบาน หรือแตกเม็ด ก็จะได้ข้าวต้มอุ่นๆ จะปรุงรส ใส่หมูสับหรือปลาก็ได้ตามชอบ เหมาะสำหรับเป็นอาหารเช้าหรือมื้อค่ำที่ต้องการความสบายท้อง
เมนูทานเล่นกรุบกรอบ “ข้าวตัง”
เป็นเมนูที่ไม่ต้องพึ่งความร้อนมากนัก เพียงนำข้าวเย็นมาเกลี่ยเป็นแผ่นบางๆ ผึ่งแดดให้แห้งสนิท จากนั้นนำไปทอดจนกรอบ จะได้ ข้าวตัง ที่สามารถนำไปทานคู่กับเมี่ยงคำหรือราดด้วยน้ำจิ้ม/น้ำซอสต่างๆ เช่น น้ำจิ้มไก่ หรือทำเป็นเมนู ข้าวตังหน้าตั้งก็อร่อยเพลิน
เมนูจากต่างแดนโจ๊ก/รีซอตโต้ (Risotto)
หากคุณมีเวลาลองทำเมนูที่ต้องใช้ความละเมียดขึ้นมาอีกนิดอย่าง โจ๊ก ที่ต้องเคี่ยวข้าวจนเละ หรือรีซอตโต้สไตล์อิตาเลียน ที่ต้องค่อยๆ เติมน้ำซุปและคนให้ข้าวมีความครีมมี่ ข้าวเย็นก็สามารถนำมาปรับใช้ได้ เพียงแค่ต้องใช้เวลาเคี่ยวนานกว่าข้าวใหม่เล็กน้อย แต่รสชาติที่ได้ก็หอมอร่อยไม่แพ้กัน
เคล็ดลับการเก็บรักษาข้าวเย็นอย่างปลอดภัย
เพื่อให้ข้าวเย็นสามารถนำกลับมาใช้ได้อย่างปลอดภัยและคงคุณภาพดี ควรทำตามขั้นตอนเหล่านี้
- ทำให้เย็นอย่างรวดเร็ว: หลังหุงเสร็จ หากรู้ว่ามีข้าวเหลือ ควรรีบตักข้าวใส่ภาชนะและผึ่งให้ข้าวคลายความร้อนลงสู่ระดับอุณหภูมิห้องให้เร็วที่สุด (ไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง) เพื่อลดความเสี่ยงจากการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
- เก็บในภาชนะปิดสนิท: บรรจุข้าวเย็นในกล่องหรือถุงซิปล็อกที่ปิดสนิท ก่อนนำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา (สามารถเก็บได้ประมาณ 3-4 วัน)
- แช่แข็งเพื่อยืดอายุ: หากต้องการเก็บนานขึ้น ให้แบ่งข้าวเป็นส่วน ๆ ใส่ถุงแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซ ซึ่งสามารถเก็บได้นานถึง 3 เดือน เมื่อต้องการใช้ก็นำมาละลายน้ำแข็งและอุ่นใหม่
การหันมาให้ความสำคัญกับการใช้ข้าวเย็นที่เหลืออย่างคุ้มค่า ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยคุณประหยัดเงินในกระเป๋าเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในการลดปริมาณขยะอาหารจากครัวเรือน เปลี่ยนข้าวเย็นเหลือ ให้เป็นเมนูอร่อยกันเถอะ!

